กฎบังคับแบบนี้ก็มี!!!

เก็บมาเล่าเรื่องราวใกล้บ้าน

                   เดี๋ยวนี้ใครคุยกันก็เริ่มต้นเข้าเรื่องมี AEC เข้าไปเกี่ยวข้องประจำ แล้วทุกครั้งส่วนใหญ่จะคุยกันเกี่ยวกับอาหารการกิน ประเพณี สถานที่ท่องเที่ยวมีอะไรน่าสนใจ บางครั้งผมเองว่าเราน่าจะมีอะไรคุยกันแปลกๆ บ้าง

                   เวลาว่างหลังปิดต้นฉบับเลยลองมานั่งหาข้อมูลดู มาสะดุดเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายบางอย่าง เชื่อว่าหลายคนไม่ค่อยรู้เรื่องแน่ บางคนอาจสงสัยว่าข้อห้ามแบบนี้มีจริงเหรอ ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกประเทศล้วนต้องคำนึงถึงตัวเองก่อนเป็นหลัก บางข้อบังคับใช้ได้ดีกับประเทศนั้น แต่พอนำไปใช้กับประเทศอื่นใช้ไม่ได้ก็เป็นได้ เรื่องนี้เก็บมาเล่าพอประเทืองปัญญา

                   คุณรู้หรือเปล่าประเทศที่อยู่ไม่ไกลกันมากกับเรา อย่างประเทศสิงคโปร์ซึ่งหลังๆนักท่องเที่ยวชาวไทยเริ่มเดินทางไปกันเยอะขึ้น ที่นี่ไม่เหมือนประเทศไทยตรงที่ว่า คนเดินข้างถนนหรือคนเดินเท้าไม่ยิ่งใหญ่เหมือนคนสิงคโปร์ จากข้อมูลได้บอกว่าคนเดินเท้าประเทศเขาใหญ่สุด ผู้ขับขี่รถทุกประเภทจะต้องให้สิทธิ์คนเดินเท้าไปก่อนเสมอถ้าเป็นบ้านเราคงชนกระเด็นแน่ มาดูกันต่อ เช่นเวลาคนจะข้ามถนนรถจะต้องหยุดให้คนข้ามถนนไปก่อนเสมอ ซึ่งกฎเกณฑ์นี้ จะบอกว่าในหลายๆ ประเทศเขาก็ใช้กัน เพื่อความปลอดภัยของผู้คนบนท้องถนน แต่ที่สิงคโปร์ได้มีกฎหมายออกมาบังคับว่า ห้ามผู้ขับขี่ขับรถเข้ามาในระยะ 50 เมตรของคนเดินเท้าที่กำลังพยายามจะข้ามถนน แบบว่าเข้ามาเกิน 50 เมตรผิดกฎหมายคุณต้องเว้นระยะห่างเอาไว้ให้ดีถ้าเขาเห็นจับทันทีไม่มีต่อรอง ส่วนเรื่องที่ว่าคนขับจะรู้ได้อย่างไรคงต้องอาศัยการคำนวณกันเอาเอง มากกว่านั้นคุณต้องสังเกตด้วยว่าใครกำลังจะข้ามถนนอันนี้ก็ต้องใช้การสังเกตและวัดดวงกัน ขณะเดียวกันการข้ามถนนในที่ห้ามข้ามของคนเดิน ถือว่ามีความผิดเช่นกัน โดยจะถูกปรับเป็นเงิน 500 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 12,500 บาท และถ้าทำผิดครั้งที่ 2 จะถูกจำคุกสูงสุดถึง 3 เดือนเลยทีเดียว

                   พูดถึงประเทศอื่นไปแล้วไม่ให้น้อยหน้ากันมาดูประเทศไทยกันบ้าง ล่าสุดมีคลิปการถอดเสื้อผ้าขี่มอเตอร์ไซค์คุณรู้หรือเปล่าว่ามันผิดกฎหมาย ซึ่งบางครั้งแค่ถอดเสื้อขับก็ผิดเหมือนกัน บางคนอาจยังไม่รู้ว่ามีกฎหมายแบบอยู่ด้วย ในประเทศไทย คุณจะขับรถโดยไม่สวมเสื้อนั้นไม่ได้นะครับ เพราะว่าคุณอาจจะโดนข้อหาอนาจารได้ แต่ก็นั่นแหละจะจับหรือไม่ขึ้นอยู่กับคุณตำรวจเขา บางคนก็อาจจะแค่ตักเตือน บางคนก็อาจจะจับปรับ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีข้อยกเว้นอย่างเมืองท่องเที่ยวก็ไม่ค่อยบังคับใช้แต่ถ้าใครขี่เข้าเขตเมืองเตรียมตัวเอาไว้ให้ดีแล้วจะหาว่าไม่เตือน

                   ถัดมาอีกประเทศ ใกล้เข้ามาอีกคือประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยเมืองหลวงของประเทศนี้ค่อนข้างหนาแน่นด้วยรถยนต์เพราะระบบขนส่งมวลชนยังไม่ดีพอ จึงต้องมีกฎหมายแปลกๆ ออกมาใครได้ยินก็ต้องทำหน้างงกันทั้งนั้น ถ้าหากเป็นสถานที่ที่ห้ามขับรถเข้าไปบางวันเรายังทำความเข้าใจได้มีกันเกือบทุกประเทศ วันนี้ให้เข้าอีกวันไม่ให้เข้าถือเป็นสิ่งปกติ

                   สำหรับฟิลิปปินส์ไม่เหมือนใครไม่ได้ห้ามแค่จำนวนคนนั่งในรถ เขาไม่ได้ห้ามเข้าบ้างวัน แต่ในวันและเวลาที่กำหนดห้ามเข้าคือ “ใจกลางเมือง” ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม คุณจะไม่สามารถขับรถเข้าไปในบางเขตใจกลางเมืองหรือย่านการค้าของกรุงมะนิลาได้ 1 วัน ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่า วันนั้นคือวันอะไร และหมายเลขทะเบียนตัวสุดท้ายของป้ายทะเบียนคุณคืออะไร เช่น 1 และ 2 จะไม่สามารถขับเข้าไปในเขตนั้นๆ วันนี้วันอังคารบังเอิญอยากเข้าเมืองแล้วเลขท้ายทะเบียนของคุณตรงกับเลขที่ประกาศห้ามก็หมดสิทธิ์ เป็นแบบนี้แทบทุกถนนหลักเลย อนึ่งกฎนี้มีผลเฉพาะวันจันทร์ ถึง วันศุกร์เท่านั้น ก็พอจะเข้าใจนะครับว่าทางฟิลิปปินส์นั้นต้องการลดความแออัดของจำนวนรถในเขตใจกลางเมือง

                   ถ้าประเทศเราอยากนำมาใช้เพื่อลดการจราจรอันแสนจะติดขัดลง ผมว่าลองทบทวนวางแผนเรื่องระบบขนส่งมวลชนจะดีกว่านะ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกฎหมายดูแล้วแปลกเลยอยากนำมาเล่าให้ฟังกัน ทั้งนี้แต่ละประเทศจะใช้ข้อบังคับเช่นไรคิดว่าน่าจะเหมาะกับสภาพแวดล้อมของบ้านเมืองและประชาชนอย่างแน่นอน

STORY:BLACK MAN

PHOTO :www.httpmotorcygal.com