• 29 มิถุนายน 2018 at 12:20


New Honda Freed 2013

อเนกประสงค์ ครบถ้วน คุ้มค่า

หลังจากที่ฮอนด้าฟื้นฟูกิจการขึ้นมาจากน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว ฮอนด้าก็เริ่มทำงานอย่างหนัก ถ้าสังเกตว่าฮอนด้าใช้จังหวะนี้เสนอสิ่งที่เหนือกว่าความคาดหวังทั่วไปของลูกค้า เราจึงได้เห็นความแปลกใหม่ในตลาดไม่ว่ารถยนต์ซีดาน ซีวิค E85 รถขนาดซับคอมแพ็คซิตี้ซีเอ็นจี และการเปิดตัวรถบริโอ้ ซีดาน ใหม่ ที่ผมเชื่อว่าน่าจะมีความคุ้มค่ามากกว่า บริโอ้ 5 ประตู ถ้าจะพูดถึงรถในกลุ่มรถที่มีคุณค่าสูงสุดในเรื่องความคุ้มค่าและความอเนกประสงค์แล้ว ในตลาดตอนนี้ก็เห็นจะมี "ฮอนด้า ฟรีด” รถในรูปแบบ มินิ เอ็มพีวี ที่ขายในบ้านเรามาพักใหญ่โดยเปิดตัวไปเมื่อ 4 กันยายน 2555 ฟรีดใหม่มี 2 รุ่น คือ รุ่น SE ราคา 839,000 บาท และรุ่น EL ราคา 949,000 บาท เป็นการปรับลดราคาลงมาจากรถล้านกว่าๆ ซึ่งจากการปรับลดราคานี้ทำให้รถคันนี้น่าสนใจขึ้นมาทันที




"ฮอนด้า ฟรีด” เป็นรถในรูปแบบ มินิ เอ็มพีวี อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่เป็นรุ่น Minor Change หรือเรียกง่ายๆว่า ปรับโน่นนิด นี่หน่อย และใส่ลูกเล่นเข้าไปอีก มาครั้งนี้มีสีให้เลือกเพิ่มอีก 1 สี คือสีน้ำตาลสปาร์คลิ่ง  ซึ่งมองผิวเผินใกล้เคียงสีดำมากๆ แต่ก็ไม่ใช่เพิ่มแค่สีอย่างเดียวยังมีอะไรหลายอย่างที่เพิ่มเข้ามาให้อีกด้วย

ในส่วนของภายนอก นอกจากสีใหม่ที่เพิ่มเข้ามาแล้วยังมีการเปลี่ยน ไฟหน้า กระจังหน้า และกันชนหน้า ให้ดูโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นพร้อมไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ที่ปัดน้ำฝน ทั้งกระจกหน้าและหลัง ที่ประตูหลังยังมีสปอยเลอร์มาให้ ถัดลงมาก็เป็นคิ้วโครเมี่ยมในตำแหน่งที่จับเพื่อเปิดประตูและในรุ่นนี้ยังมีกล้องมองหลังติดมาจากโรงงานสะดวกสุดๆ ในเวลาถอยเข้าจอด ส่วนล้อแม็กซ์เป็นขนาด 15 นิ้ว เหมือนเดิมแต่มีการดีไซน์เป็นลายใหม่


ภายในของรุ่นนี้เป็นเบาะหนัง 7 ที่นั่ง ที่ใช้โทนสีครีมทำให้ดูสว่างและดูห้องโดยสารกว้างขึ้น ในแถวที่ 1 และ 2 มีที่วางแขนให้ซึ่งในรุ่นที่แล้วไม่มี ในส่วนของแถวที่ 2 นั้น สามารถปรับเลื่อนเบาะเพื่อเพิ่มพื้นที่วางขาของแถวที่ 3 ได้ นอกจากนี้แล้วในแถวที่ 3 ยังสามารถพับขึ้นแขวนด้านข้างได้ด้วย เพื่อให้เป็นที่ใส่สัมภาระต่างๆ

มาที่คอนโซลหน้าจอแสดงผล วัดรอบ และจำนวนน้ำมัน รวมถึงค่าเฉลี่ย เป็นดิจิตอล คอนโซลเป็น 2 ชั้นดูแปลกตา แต่กว้างขวางดีพร้อมที่วางแก้วหรือขวดน้ำ 3 ตำแหน่ง นอกจากนี้ยังมีทีวีมาให้ถึง 2 จอ โดยจอด้านหลัง 10 นิ้ว ส่วนด้านหน้านั้นสามารถเสียบ USB ได้เหมือนรุ่นอื่นๆ โดยขณะถอยจอดจอหน้าจะแสดงภาพซึ่งมาจากกล้องด้านหลังและมีเส้นบอกระยะให้ ส่วนที่ถูกใจใครหลายๆ คนก็คือ ประตูสไลด์ไฟฟ้า 2 ด้านซ้ายและขวา ซึ่งสามารถสั่งเปิด ปิด จากปุ่มด้านเข่าขวาคนขับหรือ ผู้โดยสารสามารถ เปิด-ปิดเองก็ได้ กระจกไฟฟ้าทั้ง 4 บาน และที่กระจกมองข้างปรับไฟฟ้ายังสามารถพับเก็บได้ด้วย






สำหรับเครื่องยนต์ยังเป็นบล็อกเดิมคือ i-VTEC 1,500 ซีซี. 118 แรงม้า พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด เปลี่ยนอย่างนิ่มนวล ส่วนรัศมีวงเลี้ยวนั้นเพียงแค่ 5.2 เมตร ทำให้การกลับรถใช้พื้นที่ไม่มากนัก ทดลองขับในส่วนของการใช้งานครั้งนี้ ผมใช้ Honda Freed ทั้งในเมือง และนอกเมือง ในเส้นทางนอกเมืองครั้งนี้ผมเดินทางสู่เขาใหญ่ระยะทางไปกลับก็ประมาณเกือบ 400 กิโลเมตร โดยรวมแล้วสำหรับเครื่อง 1,500 ซีซี.ตัวนี้ซึ่งแบกน้ำหนักตัวถังที่ไม่น้อย รวมถึงผู้เดินทางอีกอัตราเร่งแซงช่วง 100-130 กิโลเมตร/ชั่วโมง ไม่ได้ช้าจนทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย เพียงแต่เราต้องเข้าใจก่อนว่ารถประเภทนี้ออกแบบมาใช้งานในเมืองแถมยังมีน้ำหนักตัวถังที่มากด้วย การเร่งแซงและการเบรกควรเผื่อระยะไว้บ้าง ถึงแม้รถจะมีทั้ง ABS และระบบเสริมแรงเบรกให้มาด้วยก็ตาม การเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกทำได้ดีพอควร ถ้าขับไม่เกิน 120 กิโลเมตรสามารถพูดคุยกันได้สบายไม่ต้องตะโกนคุยกัน ได้ยินเสียงเครื่องบ้างแต่ก็เบามาก เมื่อเร่งแซงการเปลี่ยนเกียร์นิ่มนวลและต่อเนื่องดี อาจจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ครางบ้างในความเร็วรอบสูงๆ แต่ก็ไม่ถึงกับรำคาญใจ ส่วนทัศนวิสัยในการขับขี่ต้องบอกว่าดีทีเดียว มองได้ไกล ตำแหน่งเบาะนั่งพอดี อาจจะมีข้อติบ้างเล็กน้อยก็คือ แอร์ดิจิตอล ที่ให้มาจะมีแค่ลมเย็นๆ จากคอนโซลหน้าเท่านั้น ไม่มีแอร์ในแถว 2 และ 3 ทำให้ต้องเร่งแอร์พอควร เพราะต้องคอยแบ่งปันความเย็นไปให้กับแถวหลัง หวังไว้เล็กๆ ว่าเมื่อเปลี่ยนโฉมครั้งหน้าจะมีแอร์ในแถวที่ 2 หรือ 3 มาให้นะครับ



สำหรับอัตราการบริโภคน้ำมัน การขับขี่ใช้งานในเมืองเฉลี่ยที่ประมาณ 8-9 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนนอกเมืองที่เดินทางไปเขาใหญ่ อยู่ที่ประมาณ 10-11 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้เพราะเครื่องยนต์เล็ก แบกน้ำหนักเยอะ

สรุป ต้องบอกว่า ฮอนด้า ฟรีด ใหม่ น่าใช้ตรงที่เป็นรถขับง่าย ผู้หญิงก็ขับได้และรถสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งหมด ประตูอัตโนมัติถือว่าเป็นจุดเด่นมากๆ การออกแบบพื้นที่ทำได้กว้างขวาง ความสะดวกสบายของเบาะนั่งก็ตอบโจทย์ทั้งในเมืองและการเดินทางไกลได้ดี อุปกรณ์เชื่อมต่อมัลติมีเดียครบ แม้เครื่องยนต์มีขนาดเล็กเมื่อบรรทุกครบทั้งคนและสิ่งของ อาจจะทำให้อัตราการเร่งด้อยไปเสียหน่อยแต่ความเร็วเดินทางจริงๆ ราว 100-110 กม./ชม. ซึ่งเป็นย่านความเร็วที่ใช้บ่อยบนถนนจริงๆ "ฮอนด้า ฟรีด” ก็ยังรองรับได้ บอกตรงๆ ว่ารุ่นนี้น่าจะขายดีมากกว่ารุ่นที่แล้ว เพราะด้วยความอเนกประสงค์ เหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่ๆ ถ้าถามผมว่าคุ้มมั้ยที่จะเลือกซื้อส่วนตัวคงบอกว่าในรถพิกัดนี้ ลูกเล่นขนาดนี้ ราคาระดับนี้ ผมว่าคุ้มแน่นอนครับ

 

ขอขอบคุณ : บริษัทฮอนด้า ออโต้โมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เอื้อเฟื้อรถทดลองขับ

      

      

      

 

ปิดปรับปรุงระบบความคิดเห็นชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก หากลูกค้าต้องการเปิดใช้งานระบบ กรุณาติดต่อ 02-8323222 กด 2