• 23 เมษายน 2019 at 15:25

STORY:BLACK MAN

PHOTO: www.dudeupdate.com

Downsizing Engine มาได้อย่างไร?

ทำไมเครื่องยนต์เล็กมาแรง น่าสนใจเหมือนกันนะ เวลานี้นอกจากเรื่องรถพลังงานไฟฟ้า(EV)ล้วน หรือแม้กระทั่งรถปลั๊กอินไฮบริด ที่ใช้ทั้งไฟฟ้าน้ำมันรวมกันคือสามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้ หรือจะเป็นรถประเภทไฮบริด ใช้มอเตอร์และแบตเตอร์รี่ขนาดใหญ่ทำงานร่วมกันกับเครื่องยนต์ ที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนเป็นผลดีต่อสิ่งแวดทั้งสิ้นอีกทั้งยังประหยัดจนเหลือเชื่อ ประถึงขั้นรถติดแก๊สยังต้องหลบไป โอ้โห้แบบนี้เกินจริงหรือเปล่า ไม่หรอกมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ 

พอผ่านมาถึงวันนี้เราคงได้เห็นยางอย่างเกิดขึ้นกับรถยนต์รุ่นใหม่ ที่พกพาเครื่องยนต์ขนาดเล็กลงมาเรื่อยๆ สิ่งที่สวนทางกันกับความเล็กของเครื่องยนต์เหล่านั้นคือ? ราคา!! .ใช่แล้วราคาค่าตัวกลับแพงขึ้นแพงกว่า รุ่นที่มีเครื่องยนต์ใหญ่ๆเสียอีก ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าทั่วโลกเริ่มให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นถึงขั้นขีดสุด เหล่าบรรดาวิศวกรทั้งหลายจึงต้องหันมามองความเป็นไปได้ว่า ควรจะหาทางออกทำร้ายโลกน้อยลง เริ่มจากการเล็งเห็นว่าการเผาไหม้ของเครื่องยนต์มันย่อมส่งผลโดยตรง ต้องเร่งรีบทำให้เครื่องยนต์เผาไหม้สะอาดหมดจด แล้วก็ต้องมีกำลังที่ดีขึ้นตามไปด้วย

ดังนั้นหลายปีที่ผ่านมาระยะหลังเราจะเห็นได้ชัดจากทางฝั่งยุโรปเริ่มมีการใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กแต่สมรรถนะสูง ที่เห็นชัดอย่างฟอร์ดที่มีการเปิดตัวเครื่องยนต์ “อีโค่บูสต์” พิกัดแค่ 1,000 ซีซี. แต่ทว่าพละกำลังกลับมีให้ใช้แบบเหลือเชื่อแม้มีเพียง 3 ลูกสูบแต่ก็ให้กำลังไม่แพ้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่แถมยังมีแรงบิดที่ดีในรอบต่ำอีกเช่นกัน หรือแม้กระทั่งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรของเขามันก็เป็นที่น่าสนใจให้กำลังมากมายเท่าเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร แรงบิดมากถึง 240 นิวตัน/เมตร แถมยังมีความประหยัดมาให้อีก 

ขณะเดียวกันทั้ง โฟล์ค,เบนซ์,บีเอ็มดับเบิ้ลยู,ต่างก็ทุ่มเทพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ ที่มีขนาดเล็กลงแต่ให้กำลังได้ดี ทั้งช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ลดภาษี มันยิ่งเป็นสิ่งน่าสนใจหลายคนกังวลใจว่าการที่รถมีเครื่องยนต์เล็กลงมี ซีซี.น้อยลงจะพารถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ไปได้หรือไม่ เราตอบแทนได้เลยว่ามันไปได้แน่นอน เพราะส่วนมากเราจะเห็นว่าทเคโนโลยีใหม่ๆในเครื่องยนต์ขนาดเล็กจะถูกแก้ไขปัญหาจุกจิกเช่นเรื่องการออกตัวค่อนข้างอืดหรือแม้แต่ความเร็วปลายก็ตาม เพราะหากคุณลองสังเกตดูพลังแรงบิดของเครื่องยนต์แต่ละรุ่นจะมี แรงบิดมาให้มากมาย อย่างเครื่องยนต์ Skyactiv ของมาสด้า เครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตรให้แรงม้า 105 แรงม้าแล้วก็มีแรงบิดมากถึง 250 นิวตันเมตร แล้วก็มาตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ต่ำ หรือที่เรียกกันว่า Flat Torque ให้กำลังแรงต่อเนื่องแล้วก็มาตั้งแต่รอบต่ำหรือทุกครั้งที่เรากดคันเร่งแซง 

ดูอย่างเครื่องยนต์รุ่นของฮอนด้าซีวิค ใช้เครื่องยนต์ขนาดเพียง 1.5 ลิตร แต่มันสามารถสร้างแรงม้าได้มากรถึง 170 แรงม้าเท่านั้นไม่พอ ตัวเลขแรงบิดยังมากถึง 220 นิวตันเมตร ที่ 1,700 ต่อเนื่องถึง 5,500 รอบต่อนาที นั่นเป็นอย่างไรถ้าใครเคยขับก็รู้สึกได้ถึงการตอบสนองที่ยอดเยี่ยมของเครื่องยนต์เหล่านี้ 

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์เหล่านี้ก็มักจะมาพร้อมกับเทอร์โบรุ่นใหม่เช่นกันทั้งแบบคู่ แบบแปรผัน ทำงานร่วมกันทั้งเทอร์โบแบบเล็ก-ใหญ่ ลองคิดดูเองแล้วกัน ว่ามีเหตุผลอะไรที่ผู้ผลิตรถยนต์เริ่มมองข้ามเครื่องยนต์ใหญ่ๆน้ำหนักมากๆเหมือนสมัยก่อนแถมยังปล่อยมลพิษหนักหน่วงโดนภาษีอีกเพียบ หลังจากนี้เราคงได้เห็นเครื่องยนต์พิกัดเล็กแต่สมรรถนะสูงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าคุณกำลังกังวลคงต้องลืมได้แล้วเพราะเทคโนโลยีมาไกลมาก ในเมื่อมันดีกว่าในทุกด้านเราก็ไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธของดี

 

 

ปิดปรับปรุงระบบความคิดเห็นชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก หากลูกค้าต้องการเปิดใช้งานระบบ กรุณาติดต่อ 02-8323222 กด 2