ข้ามเกาะล้านมาหารัก

“ว่ากันว่าคนที่มาทะเล ไม่หนีร้อน ก็หนีรัก” วลีเก๋สุดฮิตท่ามกลางอากาศอันร้อนระอุของเดือนเมษายน จริงอยู่ที่หาดทราย สายลม และ กิจกรรมทางน้ำ อาจจะพอช่วยคลายร้อนไปได้บ้าง แต่สำหรับเรื่องความรักต่อให้เป็นทะเลที่ไกลสุดขอบฟ้าจะให้หนีอย่างไรคงหนีไม่พ้นอยู่ดี (โปรย)

            เมื่อวันว่างเป็นใจให้ผมออกเดินทาง จะมีอะไรที่วิเศษไปกว่าการได้จูงมือคนที่ผมรักไปเที่ยวทะเลด้วยกัน ยิ่งถ้าเป็นสถานที่ที่ใช้เวลาในการเดินทางไม่นานด้วยแล้วล่ะก็ ภายในหนึ่งวันเราจะสามารถทำกิจกรรมหลายต่อหลายอย่างร่วมกันแบบเหลือเฟือเลยทีเดียว เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่โปรดของเราสองคน เพราะจากกรุงเทพใช้เวลาเพียงชั่วโมงเศษผมก็มาถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวันดีๆ แบบนี้





หาดตาแหวน ศูนย์รวมกิจกรรมของเกาะล้าน

            เมื่อมาถึงท่าเรือแหลมบาลีฮายจะมีบริการรับฝากรถยนต์โดยคิดค่าฝากสำหรับไปเช้าเย็นกลับคันละ 40 บาท ค้างคืนวันละ 100 บาท เมื่อฝากรถเรียบร้อยแล้ว จากท่าเรือแหลมบาลีฮาย นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ว่าจะไปลงที่ท่าเรือหาดตาแหวน หรือท่าเรือหน้าบ้านของเกาะล้าน โดยคิดค่าบริการ 30 บาท/คน ระยะทางจากชายฝั่งพัทยากับเกาะล้านห่างกันประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาไม่เกิน 45 นาทีเราก็มาถึงท่าเรือหน้าบ้าน ซึ่งในส่วนของท่าเรือหน้าบ้านจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่าท่าเรือหาดตาแหวน ไม่ว่าจะเป็น ร้านสะดวกซื้อ ที่พัก ร้านอาหาร ตู้ATM ร้านของฝาก รวมถึงจุดบริการเช่ามอเตอร์ไซต์ ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการเที่ยวเกาะล้านเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ขับรถมอเตอร์ไซต์ไม่เป็น ก็มีจะจุดบริการ วินมอเตอร์ไซต์ และรถสองแถวสีฟ้าที่อยู่ห่างจากจุดลงเรือ 300 เมตรไว้คอยบริการในราคาตั้งแต่ 20-40 บาท โดยขึ้นอยู่กับจุดที่นักท่องเที่ยวต้องการจะไป

            โชคดีที่ผมขับรถมอเตอร์ไซต์ได้การไปไหนมาไหนบนเกาะจึงเป็นเรื่องสะดวกสบาย ค่าบริการก็วันละ 200 บาท จุดแรกของผมในวันนี้ก็คือ หาดตาแหวน ศูนย์รวมกิจกรรมของเกาะล้าน ซึ่งแน่นอนว่าช่วงเช้าถึงบ่ายที่หาดตาแหวนนั้นครึกคักตลอดทั้งวัน เนื่องจากทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใสแจ๋ว นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มากับบริษัททัวร์สลับสับเปลี่ยนกันตลอดเวลา บ้างก็มาเพื่อเพิ่มความเข้มของสีผิวของตนเองด้วยการนอนอาบแดด บ้างก็มาเล่นน้ำหรือกิจกรรมทางน้ำต่างๆ ซึ่งมีให้เลือกเยอะแยะมากมายไม่ว่าจะเป็นบานาน่าโบ๊ต, เจ็ตสกี, ซีวอร์กเกอร์, ดำน้ำสน็อกเกิ้ล ฯลฯ ส่วนยามค่ำคืนนั้น หากใครที่หวังจะรื่นเริงบันเทิงแสงสีกับหาดตาแหวนคงต้องแอบผิดหวังกันเล็ก น้อย เพราะพอได้เวลาสัก 4 – 5 โมงเย็น ร้านค้าก็จะเริ่มทยอยปิดกันหมดแล้ว ส่วนผับบาร์ก็แทบจะเลิกพูดถึงกันไปได้เลย เพราะที่หาดตาแหวนไม่มีให้เห็นเลยสักร้าน หากใครต้องการนั่งดื่มสังสรรค์กับหมู่เพื่อนฝูงคงต้องไปที่ท่าเรือหน้าบ้านแทน

           

หลังจากเล่นน้ำสนุกสนานที่หาดตาแหวนกันจนหนำใจแล้ว ก็สามารถเดินมาหามุมสงบกันได้ที่ หาดสังวาลย์ ซึ่ง เราต้องเดินบนสะพานไม้ข้ามต่อไปอีกเล็กน้อย โดยสะพานไม้แห่งนี้นับเป็นสัญลักษณ์ของหาดสังวาลย์เลยก็ว่าได้ ทำให้ไม่ว่าใครที่เดินข้ามสะพานนี้แล้วเป็นต้องอดใจไม่ไหว หยิบกล้องถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกันทั้งนั้น จัดเป็นอีกหนึ่งมุมมหาชนที่คนมาเกาะล้านแทบทุกคนต้องมี สำหรับบรรยากาศของหาดสังวาลย์นั้นแตกต่างจากหาดตาแหวนโดยสิ้นเชิง หาดสังวาลย์จะเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่ามาก แต่ทว่าร้านอาหารและที่พักจะมีให้เลือกเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น หากใครต้องการหาที่ที่เป็นส่วนตัวเพื่อฟังเพลงหรืออ่านหนังสือเล่มโปรดลอง เดินข้ามมายังหาดสังวาลย์ได้เลย รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

อิ่มบรรยากาศริมทะเลกับมื้อพิเศษบนเกาะล้าน

            มีโอกาสจูงมือคนรู้ใจมาเที่ยวทะเลทั้งที จะพลาดมื้อกลางวันริมทะเลไปได้อย่างไร หลังจากที่หาข้อมูลรวมทั้งถามผู้มีประสบการณ์คำตอบที่ได้คือ ร้านครัวพวงพยอม ซึ่งเป็นร้านที่ถูกพูดถึงมากที่สุด เราสองคนจึงขอพิสูจน์ว่าจะอร่อยสมคำล่ำลือหรือไม่ จากท่าเรือหน้าบ้านให้เลี้ยวขวาไปทาง ศาลเจ้าแม่ชีวิต เป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร แล้วเลี้ยวขวา แล้วให้ตรงต่อไปอีกประมาณ 300 เมตร จะพบกับ ครัวพวงพยอม อยู่ทางขวามืออยู่เกือบสุดถนน

ร้านครัวพวงพยอม เปิดตั้งแต่ 11.00-22.00 น บรรยากาศภายในร้านมีกลิ่นอายหวานๆ ประดับประดาด้วยโคมไฟหลากสีตัดกับสีขาวสะอาดตา คลอเบาๆด้วยบทเพลงเก่าๆ เมนูเด็ดของที่นี่เลยก็คือ หมึกแดดเดียว ชิ้น โตเต็มคำ เหนียวนุ่มสู้ฟันของเนื้อปลาหมึกที่มีรสหวาน จานถัดมาคือ ห่อหมกทะเลทอด ที่อัดแน่น ไปด้วยกุ้ง ปลาหมึก และเครื่องสมุนไพรต่างๆ กินของทอดกันไปแล้ว เราก็ต้องขอซดน้ำแกงร้อนๆ สักหน่อย แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว เมนูนี้ขอบอกเลยว่า เด็กๆ หมดสิทธิ์ เพราะรสชาติเผ็ดนำโดดออกมาอย่างชัดเจน ปิดท้ายด้วย หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ผัดฉ่า หอยตัวโตเต็มคำที่จัดเสิร์ฟมาเป็นตัวๆ ราดรสด้วยซอสผัดฉ่า เมื่อได้กินคำแรกจะสัมผัสได้ถึงเนื้อหอยแมลงภู่ที่แน่นมากๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันในความสดใหม่ ส่วนรสชาติออกไปทางเค็มและเผ็ดร้อนอยู่หน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้จัดจ้านจนเกินไป สามารถกินกันได้ทุกเพศทุกวัย

เป็นธรรมดาที่หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน การหาร้านกาแฟชิวๆ ฟังเพลงเพลินๆ คงเป็นอะไรที่ไม่เลวสำหรับช่วงเวลาบ่ายๆแบบนี้ ว่าแล้วเราก็มุ่งหน้าสู่ร้าน มาหารัก คาเฟ่ ร้านกาแฟดังบนเกาะล้านที่กำลังเป็นที่พูดถึงมากสุดในขณะนี้ใครที่มาเกาะล้านแล้วไม่ได้มาเช็คอินที่ร้านนี้อาจจะถูกเพื่อนๆ ล้อเอาได้ว่าเชยระเบิด

ร้าน มาหารัก คาเฟ่ อยู่บริเวณท่าเรือหน้าบ้าน ตรงมาจากคิวรถสองแถวประมาณ 300 เมตร ก็จะเห็นร้านกาแฟชุดชิคอยู่ทางซ้ายมือติดกับทะเล โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 11 โมงเป็นต้นไป บรรยากาศร้านมีทั้งโซน Indoor และ Outdoor ซึ่งโซน Outdoor ก็ยังมีแบบนั่งชิวริมทะเล หรือ นั่งชิวชมสวน โซนริมทะเลถ้ามาช่วงเย็นๆ ประมาณ 5 โมงเย็นเป็นต้นไปจะชิวมาก เพราะแดดเริ่มร่ม และนอกจากกลางวันจะเป็นคาเฟ่แล้ว กลางคืนยังมีดริ้งเบาๆ ด้วย หากใครที่เป็นเด็กแนวตัวจริงผมเชื่อว่าจะให้อยู่ร้านนี้ทั้งวันก็ยังได้

ขับรถชมทัศนียภาพจากมุมสูง

            แม้ว่าแสงแดดยังร้อนแรงอยู่บ้าง แต่เมื่อเจอฟ้าใสๆ แบบนี้ เราคงต้องไปต่อเพื่อให้ได้ภาพสวยๆ วิวใสๆ ที่เราสามารถมองจากจุดที่สูงที่สุดบนเกาะไปได้ไกลสุดสายตา ซึ่งจุดชมวิวบนเกาะล้านนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 3 จุด ซึ่งเราเริ่มต้นกันจาก จุดชมวิวเขานม ที่ตั้งอยู่บริเวณ หน่วยบริการประชาชนบ้านเกาะล้าน โดย เราสามารถขับมอเตอร์ไซค์มาถึงได้ไม่ยากเพราะถนนหนทางยังค่อนข้างสมบูรณ์ดี อยู่ แต่ว่าเราต้องออกแรงกันนิดหน่อย ด้วยการเดินขึ้นบันไดประมาณ 200 ขั้น เราเดินกันเรื่อยๆ ไม่ถึง 10 นาทีก็มาถึงด้านบนอย่างสบายๆ ไม่ได้ลำบากลำบนมากนัก จากจุดชมวิวเขานมนี้ เราสามารถเห็นทุกซอกทุกมุมของเกาะล้านได้อย่างชัดเจน หากมองใกล้ๆ จะมองเห็นทะลสวยใสอันกว้างใหญ่ หากมองไกลขึ้นอีกนิดจะเห็นเมืองพัทยาอยู่ห่างออกไปลิบๆ เป็นความงามที่พาให้เราต้องลั่นชัตเตอร์อย่างนับไม่ถ้วน ก่อนที่จะเดินลงเขาเพื่อไปต่อยังจุดชมวิวถัดไป

           
ขับรถจากจุดชมวิวเขานมมาไม่นานเราก็มาถึง จุดชมวิวกังหันลม ฟัง จากชื่อแล้วหลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่ามีกังหันลมอยู่ที่จุดชมวิว แต่ความจริงแล้วบริเวณจุดชมวิวนั้นไม่ได้มีกังหันอย่างที่คิด เพียงแต่เราจะต้องขับรถผ่านเนินที่มีหมู่มวลกังหันลมกว่า 40 ต้นตั้งอยู่ ซึ่งเราสามารถถ่ายรูปได้จากด้านนอกเท่านั้น และสำหรับส่วนที่เป็นจุดชมวิวเราต้องขับรถมอเตอร์ไซค์เลยต่อขึ้นไปด้านบนใน ทางที่ค่อนข้างชันพอสมควร ถนนหนทางก็ยังพอไหว โดยจุดชมวิวกังหันลมจะมีทางเดินรอบเสาโทรศัพท์ ถือเป็นจุดชมวิวที่มีขนาดใหญ่พอสมควรทีเดียว จากจุดนี้เราสามารถเห็นสภาพแวดล้อมของเกาะล้านได้ชัดเจนคล้ายกับจุดชมวิวเขา นม แต่ทว่าด้วยความที่มีขนาดใหญ่กว่ามาก จึงมีมุมให้เก็บภาพสวยๆ ได้เยอะแยะ เราเดินไปทางไหนก็เจอมุมงามๆ เหมาะแก่การโพสท่าถ่ายรูปเซลฟี่แทบทั้งนั้น

           

จุดชมวิวสุดท้ายของเกาะล้านก็คือ จุดชมวิวเจ้าแม่กวนอิม ตั้งอยู่ใน เขตธุดงคสถานเฉลิมพระเกียรติเกาะล้าน”ซึ่ง การมายังจุดชมวิวเจ้าแม่กวนอิมนี้ต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร เพราะว่าถนนค่อนข้างชัน และวิบาก กว่าที่เราจะมาถึงได้ก็เล่นเอาหวาดเสียวกันไม่ใช่น้อย แต่ถ้าเทียบกับความงามของที่นี่แล้วก็ถือว่าคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม เพราะว่าเราจะได้เห็นทิวทัศน์อันงดงามที่ยากเกินคำอธิบาย ถึงแม้ว่าที่นี่อาจจะเป็นจุดชมวิวที่เล็กที่สุด เดินทางลำบากที่สุด และเห็นแค่วิวแค่เพียง หาดตาแหวน ไม่ได้เห็นรอบเกาะเหมือนอีกสองจุดแรก แต่ทว่าจุดนี้เป็นจุดที่เราสามารถทัศนียภาพเบื้องหน้าได้อย่างเต็มตาที่สุด เพราะไม่มีต้นไม้บดบัง เรียกได้ว่าเห็นกันเน้นๆ แบบไม่ต้องเดินหามุมให้เหนื่อย โดยส่วนตัวแล้วผมชอบจุดชมวิวเจ้าแม่กวนอิมแห่งนี้มากที่สุดเลยล่ะครับ

            การได้มาเที่ยวเกาะล้านในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่ผมได้ทำอะไรมากมาย ทั้งกิน ทั้งเที่ยว แต่แปลกที่เราทั้งสองไม่มีเหนื่อยเลยแม้แต่นิด สำหรับใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวสั้นๆ มีช่วงเวลาวันหยุดเพียงแค่สุดสัปดาห์ เกาะล้าน ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกที่ใกล้กรุงที่ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก


TRAVELLER’S GUIDE

Where

เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี

How to get there

การเดินทางไปเกาะล้าน สามารถใช้บริการเรือเมล์ได้ที่ท่าเรือแหลมบาลีฮาย ซึ่งตั้งอยู่บนถนนพัทยาสาย 1 บริเวณท่าเรือมีบริการรับฝากรถ ส่วนค่าเรือเมล์สำหรับข้ามเกาะคนละ 30 บาท ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที นักท่องเที่ยวสามารถเลือกขึ้นฝั่งที่ท่าเรือหน้าบ้าน หรือหาดตาแหวนก็ได้

Tip

หากใครจะมาหาดตาแหวนควรมากันแต่เช้าสักหน่อย เพราะว่าช่วงประมาณ 4 – 5 โมงเย็น ร้านค้าก็เริ่มทยอยปิดกันหมดแล้ว

More information

thai.tourismthailand.org