• 15 มกราคม 2019 at 12:22

Asian Lemans Series R.3

“4H Of Buriram” มิชลินพาสัมผัสความแรงถึงขอบสนาม 

Story/Photo:BlackMan 

        อดีตนักขับเอฟวันพาทีมอเมริกันผงาดคว้าแชมป์ครั้งแรกในไทย สมรรถนะยางมิชลินสุดยอดวิ่งครบ 4 ชั่วโมงเต็มไร้ปัญหา

          มิชลินผู้สนับสนุนหลักยางสำหรับการแข่งขัน ศึก เอเชียน เลอ มังส์ ซีรีส์  2018/19 ที่ดวลความเร็วมาถึงสนาม 3 สนามนี้แข่งกัน ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์  พาสื่อมวลชนชมถึงขอบสนาม ผลปรากฏว่า พอล ดิ เรสต้า ควง ฟิลลิป แฮนสัน พาทีม ยูไนเต็ด ออโตสปอร์ต จากสหรัฐอเมริกาผงาดคว้าแชมป์แรกของปีในเมืองไทย ขยับใกล้การคว้าแชมป์ประจำปี หลังจบเรซสุดเข้มข้น แข่งขันต่อเนื่องกัน 4 ชั่วโมง โดยจะไปจบการแข่งขันในเวลา 15.45 น. 

        ตำแหน่งโพลโพซิชั่นในเรซนี้ของคลาส แอลเอ็มพีทู เป็นของรถแข่งหมายเลข 24 จาก อัลการ์ฟ โปร เรซซิ่ง ยอดทีมแข่งสัญชาติโปรตุกีส ขับโดย แฮร์ริสัน นิวอี้ นักขับจากสหราชอาณาจักร และ อันเดรีย พิซซิโตล่า ทีมเมทชาวฝรั่งเศส และ อาเต้ เดิร์ค เด ยอง จอมเก๋าชาวดัตช์ ขนาบข้างด้วยจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพอย่าง ยูไนเต็ด ออโตสปอร์ต ทีมแข่งอเมริกัน หมายเลข 22 ขับโดย ฟิลลิป แฮนสัน นักขับอังกฤษ และอดีตนักขับรถสูตรหนึ่งอย่าง พอล ดิ เรสต้า ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ อาร์อาร์ซี บราติสลาว่า ทีมแข่งจากสโลวาเกีย หมายเลข 4 ที่ขับโดย ดาร์เรน เบิร์ก นักขับอังกฤษ, มิโร โคน็อปก้า นักขับสโลวัก และ หลิง คัง นักขับจีน

        โดยทีมแข่งอเมริกันใช้กลยุทธ์เข้าพิต 4 ครั้ง ตามแผนสลับนักขับ 2 คน คนละ 1 ชั่วโมง และทำผลงานได้อย่างไร้ที่ติทั้งนักขับ และทีมช่าง ก่อนที่ แฮนสัน จะนำรถแข่งเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก หลังผ่าน 4 ชั่วโมง โดยสามารถวิ่งไปได้ทั้งสิ้น 158 รอบสนาม คิดเป็นระยะทางทั้งสิ้น 719.532 กิโลเมตร คว้าแชมป์ เอเชียน เลอ มังส์ สนามที่ 3 ของฤดูกาลนี้ไปครอง พร้อมกับเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกของ ยูไนเต็ด ออโตสปอร์ต ในประเทศไทย และเป็นแชมป์แรกของพวกเขาในฤดูกาลนี้ด้วย ส่วนอันดับ 2 ในสนามนี้ตกเป็นของ อัลการ์ฟ โปร เรซซิ่ง ด้านอันดับ 3 เป็นของรถแข่งหมายเลข 35 จาก เพนิส บาร์เตซ คอมเพติชั่น ทีมแข่งฝรั่งเศสที่ขับโดย 3 นักขับเฟรนช์ อย่าง แม็ตธิว ลาเฮย์, ฌองส-บาปติสต์ ลาเฮย์ และ ฟรองซัวส์ เฮร์ยู ตามหลังแชมป์ 1 รอบสนาม

            ขณะที่แชมป์ในคลาส แอลเอ็มพีทรี ตกเป็นของ รถแข่งหมายเลข 2 จาก ยูไนเต็ด ออโตสปอร์ต ทีมแข่งอเมริกันที่ขับโดย เวย์น บอยด์ นักขับอังกฤษ จับคู่กับ แกเร็ตต์ กริสต์ นักขับแคนาเดียน และ คริส บันคอมบ์ ทีมเมทชาวอังกฤษ เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยจำนวนรอบทั้งสิ้น 151 รอบสนาม คิดเป็นระยะทางทั้งสิ้น 687.654 กิโลเมตร เหนืออันดับ 2 อย่างรถแข่งหมายเลข 13 จากทีม อินเตอร์ ยูโรโปล คอมเพติชั่น จากโปแลนด์ ขับโดยนักขับโปลอย่าง จาคุบ ชมิคอฟสกี้ และทีมเมทชาวอังกฤษอย่าง มาร์ติน ไฮปป์ ตามหลังแชมป์ 1 รอบสนาม ส่วนอันดับ 3 เป็นของรถแข่งหมายเลข 79 จาก อีคูรี อีคอสเซ/นีลสัน เรซซิ่ง ขับโดย 2 นักขับจากสหราชอาณาจักรอย่าง แอนโธนี เวลส์ และ คอลิน โนเบิล ตามหลังแชมป์ 2 รอบสนาม 

        ด้านผลการแข่งขันในคลาส จีที แชมป์ตกเป็นของรถ หมายเลข 11 คาร์ กาย ทีมแข่งญี่ปุ่นที่ขับโดย เจมส์ คาลาโด้ นักขับอังกฤษ, ทาเคชิ คิมูระ และ เคอิ คอซโซลิโน สองนักขับญี่ปุ่นที่ช่วยกันสร้างผลงานยอดเยี่ยม ขับไปได้ทั้งสิ้น 146 รอบสนาม คว้าแชมป์ไปครองได้อย่างสุดมัน อันดับ 2 หมายเลข 88 จาก เทียนฉี เรซซิ่ง ทีม จากจีน ที่ขับโดย ฌอง คาร์ล เวอร์เนย์ นักขับฝรั่งเศส, อเล็กซ์ อู นักขับฮ่องกง และ เฉิน เหว่ย อัน ทีมเมทชาวจีน อยู่ 1 นาที 2.185 วินาที ส่วนอันดับ 3 หมายเลข 51 จากทีม สปิริต ออฟ เรซ ทีมแข่งสัญชาติสวิส ที่ขับโดย อเลสซานโดร ปิแอร์ กูดี้ นักขับอิตาเลียน และ ออสวัลโด เนกรี จูเนียร์ ทีมเมทชาวอเมริกัน รวมถึง ฟรานเชสโก ปิโอวาเน็ตติ นักขับโปรตุกีส ตามหลังแชมป์ 1 รอบสนาม 

         นอกจากเครื่องยนต์ทรงพลังแล้ว ยางสำหรับแข่งขันสำหรับการแข่งขัน เอเชียน เลอ มังส์ ซีรีส์ 2018/19 สนามสุดท้ายจะไปดวลความเร็วกันที่ สนาม เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 22-24 กุมภาพันธ์นี้

 

ปิดปรับปรุงระบบความคิดเห็นชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก หากลูกค้าต้องการเปิดใช้งานระบบ กรุณาติดต่อ 02-8323222 กด 2