• 2 ตุลาคม 2019 at 16:40

Test Drive New Pajero Sport

สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในตัวเธอ

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เชิญสื่อมวลชนร่วมกิจกรรมทดสอบขับ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ บนเส้นทางกรุงเทพฯ – หัวหิน ทดสอบความแข็งแกร่งกันที่แก่งกระจาน ขับขี่แบบออฟโรดที่เป็นเอกลักษณ์ของ มิตซูบิชิ ปาเจโร ผสานเข้ากับความสะดวกสบายและความหรูหรา

กิจกรรมทดสอบขับเริ่มต้นที่ร้านอาหารใจกลางกรุงเทพฯ โดยมีการบรรยายข้อมูลผลิตภัณฑ์และการปล่อยขบวนรถยนต์ทดสอบขับ เราลองมาดูรอบๆ ตัวรถด้านนอกกันก่อนดีกว่าค่ะว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้างเริ่มจากกระจังหน้ารวมถึงด้านหน้าของรถนั้นออกแบบสไตล์ Advanced ‘Dynamic Shield’ ซึ่งถือว่าเอกลักษณ์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ดูแล้วก็รู้สึกสวยจริงๆ มาดูตรงชุดไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ Bi-LED พร้อมระบบปรับระดับลำแสงอัตโนมัติ

และชุดไฟคอมบิเนชั่นที่ติดตั้งอยู่ด้านนอกของกันชนหน้าดูแล้วทำให้รู้สึกถึงความบึกบึน  ด้านหลังของ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ ให้อารมณ์ถึงความแข็งแกร่ง กันชนมีขนาดใหญ่ขึ้นพร้อมแผงกันกระแทกด้านล่าง บันไดข้างติดตั้งมาให้ในตำแหน่งที่สูงขึ้นให้ความปลอดภัยในเส้นทางออฟโรด แต่ที่ชอบก็คือไฟท้ายใหม่ที่ดีไซน์สวยขึ้นแถมรุ่นนี้ยังให้ล้ออัลลอยมาขนาด 18 นิ้วอีกด้วย

เราลองมาดูภายในตัวรถกันบ้างส่วนตัวเองก็ใช้ปาเจโรอยู่เหมือนกันแต่เป็นรุ่นก่อนหน้านี้ ซึ่งภายในของปาเจโรใหม่นั้นปรับเปลี่ยนมาให้เยอะเหมือนกันถ้าเทียบกันรุ่นก่อนหน้า เริ่มจากจอแสดงข้อมูลให้มาถึง 8 นิ้ว มองเห็นชัดเลยทีนี้และรองรับการเชื่อมต่อแอปเปิลคาร์เพลย์ซึ่งก็ใช้งานง่ายและมีเมนูภาษาไทยมาให้ด้วย ส่วนผุ้โดยสารแถวหลังนั้นก็ยังสามารถดูหนังได้จากจอด้านหลังขนาด 12.1 นิ้ว ที่ติดตั้งบนเพดานรถซึ่งรองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB และสมาร์ทโฟนผ่าน HDMI แต่ที่จะดูขัดตาไปหน่อยก็สายที่พาดอยู่บนจออาจจะทำให้รู้สึกลำคาญสายตาไปบ้างถ้าเก็บอยู่ใต้เพดานของรถก็จะดูดีกว่านะตรงนี้  ห้องโดยสารก็ดูกว้างขวางนั่งสบายมีติดตั้งเพิมช่องจ่ายไฟและพอร์ท USB เพิ่มมาให้ด้านหลังสำหรับชาร์จไฟ ส่วนคอนโซลตำแหน่งคันเกียร์ปรับใหม่มีพื้นที่ให้วางของกระจุกกระจิกได้เพิ่มขึ้นตรงนี้ก็ถือว่าชอบนะคะเพราะรุ่นก่อนหน้านี้พื้นที่บริเวณตรงนี้ให้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย

หลังจากที่เรารู้จักตัวรถกันแล้วก็ถึงเวลาออกเดินทางในช่วงแรกโดยมีระยะทางประมาณ 180 กม. มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานซึ่งเราจะต้องขับผ่านการจราจรที่หนาแน่นในเมือง ซึ่งก็ทำให้เราได้ลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ทั้ง ระบบเบรกมืออัตโนมัติ Auto Parking Brake (APB)  และระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อจอดอยู่กับที่ Brake Auto Hold (BAH) เมื่อถึงทางโล่งๆ ได้ลองเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นมาซึ่งกำลังก็มาให้เราได้เห็นทันทีด้วยขนาดเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตรMIVEC VG Turbo Clean Diesel 181 แรงม้าและแรงบิด 430 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งตอบสนองได้ดีเยี่ยมจริงๆ  

ส่วนฟีเจอร์ที่ให้มาอย่างระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา พร้อมระบบส่งสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (BSW with LCA) ซึ่งเราสามารถตั้งปิดหรือเปิดให้ระบบทำงานก็ได้แล้วแต่เราจะเลือกซึ่งตัวระบบเองก็ทำงานได้ดีจะมีสัญญาณเสียงแจ้งเตือนให้เรารู้ด้วยในขณะที่เราเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนช่องจราจรและระบบตรวจพบว่ามีรถคันหลังอยู่ในจุดอับสายตากำลังวิ่งใกล้เข้ามาในช่องจราจรซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะบางทีเราอาจจะมองไม่เห็นซึ่งก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นก็ได้เพิ่มระบบเข้ามาก็ทำให้ผู้ขับอุ่นใจขึ้นเยอะ

เมื่อขบวนเข้ามาถึงอุทยานฯแก่งกระจานเราจะได้ได้เข้าไปทดสอบขับเส้นทางออฟโรดระยะทางประมาณ 9 กม.เส้นทางก็จะเป็นเส้นทางธรรมชาติ มาลองทดสอบระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II ที่มาพร้อม 4 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมด 2H ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD High-Range) โหมด 4H (4WD High-Range) ขับเคลื่อน     4 ล้อแบบ Full-Time All Wheel Control โหมด 4HLc ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง (4WD High-Range with Locked Transfer) และ โหมด 4LLc ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วต่ำ (4WD Low-Range with Locked Transfer) ซึ่งเราได้ลองใช้ทุกโหมดในการขับเคลื่อน 4 ล้อ ถึงแม้ทางขึ้นลงจะมีความชันแต่ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและโหมดต่างๆ ที่ให้มาทำให้เราขับได้สบายไม่มีกังวลถึงแม้จะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ขับก็สามารถนำพารถไปถึงจุดหมายได้ย่างง่ายดาย

ลืมบอกไปว่าจุดเด่นอีกข้อที่ชอบและทำมาใส่ในปาเจโรใหม่แล้วก็คือประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมการสั่งงานด้วยระบบแฮนด์ฟรี ทำงานร่วมกับระบบมิตซูบิชิ รีโมท คอนโทรล เราสามารถสั่งงานเปิด-ปิดประตูท้ายผ่านสมาร์ทโฟน โดยสามารถตั้งค่าให้เปิดหรือปิดอัตโนมัติเมื่อเราเดินเข้ามาใกล้หรือเดินออกห่างจากตัวรถ นอกจากการสั่งงานเปิด-ปิดประตูท้าย ระบบ มิตซูบิชิ รีโมท คอนโทรล สามารถแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสถานะตัวรถ ข้อมูลการใช้งาน การแจ้งเตือนระบบ และการสั่งงานอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้ขับขี่ผ่านสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์แวเรเบิล สามารถส่งคำสั่งได้จากทุกที่ในระยะของการเชื่อมต่อรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชันโดยทำงานควบคู่กับระบบกุญแจอัจฉริยะKOSหรือเมื่ออยู่ในระยะสัญญาณบลูทูธอันนี้ผู้หญิงน่าจะชอบเลยค่ะ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นนักช็อปเวลาที่เราไม่มีมือเปิดประตูท้ายแค่ใช้แค่ยืนเท้าเข้าไปตรงสัญญาณข้างท้ายรถประตูก็จะเปิดให้คุณเอาของใส่โดยที่ไม่ต้องใช้มือไปกดเปิดอีกต่อไป

หลังจากที่ได้ลองขับมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ แล้วเราอาจะจะลองหรือใช้ฟีดเจอร์ได้ไม่หมดด้วยการที่ต้องเปลี่ยนสลับคนขับกัน 3 คน แต่ก็พอที่จะบอกได้ว่าปาเจโร สปอร์ต ใหม่ เป็นรถที่ขับสนุกเป็นรถที่พร้อมจะลุยไปในทุกๆ ที่ ไม่ว่าเส้นทางนั้นจะโหดเพียงใดปาเจโร สปอร์ต ใหม่ คันนี้ก็จะพาเราไปถึงด้วยระบบความปลอดภัยประกอบด้วยระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (UMS) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวพร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (ASTC) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) และระบบอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยอัจฉริยะ (ETACS) ถ้าคุณอยากได้รถครอบครัวสักคัน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีให้กับคุณก็ได้นะคะ

เจ้าของรถ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ สามารถใช้งานรถได้ด้วยความมั่นใจและปลอดภัยยิ่งกว่าเดิมด้วยแอพพลิเคชั่น M-Connect รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลของตัวรถไปยังสมาร์ทโฟน โดยมี 4 เมนูหลัก ได้แก่

 

1) Roadside Assistance บริการช่วยเหลือบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมงเมื่อสั่งการผ่าน สมาร์ทโฟน และหน้าจอระบบสัมผัส SDA 

2) Vehicle Information การรายงานข้อมูลทั้งสภาพรถ ประวัติการเข้ารับบริการ และ แสดงข้อมูลตัวขณะขับขี่ 

3) Vehicle Health Report การแจ้งเตือนสถานะของตัวรถเพื่อการตรวจสอบและซ่อมบำรุง อาทิ ระบบกุญแจอัจฉริยะ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ระบบเบรกเป็นต้น และ 

4) Emergency Call การประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยระบบนี้ทำงานทันทีเมื่อถุงลมนิรภัยทำงานหรือสั่งการผ่านสมาร์ทโฟนและหน้าจอระบบสัมผัส SDA 

มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่มาพร้อม 2 สีใหม่ ได้แก่ สีขาว White Diamond และ สีเทา Graphite Gray และอีก 3 สีภายนอกยอดนิยม ได้แก่ สีดำ Jet Black Mica สีเงิน Sterling Silver และ สีน้ำตาล Deep Bronze

 

• มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ รุ่น 2WD GT มีราคาจำหน่ายเริ่มต้น 1,299,000 บาท 

• มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ รุ่น 2WD GT-PREMIUM มีราคาจำหน่ายเริ่มต้น 1,469,000 บาท

• มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ รุ่น 4WD GT-PREMIUM มีราคาจำหน่ายเริ่มต้น 1,599,000 บาท

 

ปิดปรับปรุงระบบความคิดเห็นชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก หากลูกค้าต้องการเปิดใช้งานระบบ กรุณาติดต่อ 02-8323222 กด 2