• 17 มีนาคม 2020 at 15:57

One Day Trip by Porsche

กรุงเทพฯ – นครปฐม 

  เอเอเอสฯ ชวนนักข่าวสตรีร่วมทริปทดสอบสมรรถนะรถยนต์ปอร์เช่หลากรุ่น

  พร้อมทำกิจกรรมผ่อนคลายสุดชิลด์ส่งเสริมท่องเที่ยวไทยใกล้ชิดธรรมชาติ

ปอร์เช่ จัดกิจกรรม Porsche x Ladies media a chillaxing trip to Nakornpathom เปิดประสบการณ์การขับรถยนต์ปอร์เช่หลากรุ่นแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับกลุ่มนักข่าวสตรี กิจกรรมดีๆแบนี้ ออโตวิชั่นแอนด์ทราวเวล ไม่พลาดแน่อนอนค่ะ หลังจากได้ฟังบริฟเส้นทางกันแล้วจะถึงเวลาที่จะต้องจับฉลากว่าใครจะได้ขับรถคันไหน เราได้มาคันน์มาขับกับพี่ร่วมรถอีกท่านนึงมาเทสคันเดียวกัน หลังจากฟังบริฟเส้นทางเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาออกเดินทางจุดสตาร์ทก็ตรง ศูนย์บริการ Porsche Centre Bangkok ถนนวิภาวดี มถุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐม โดยมีรถร่วมขบวนทั้งหมด 4 รุ่นได้แก่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด (Cayenne E-Hybrid), มาคันน์ (Macan), พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) และ 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster)

เมื่อเริ่มสตาร์ท เราก็เริ่มทดสอบการขับขี่ด้วยความเร็วปานกลางที่เหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง แต่ยังให้ความรู้สึกของการขับขี่ที่ไม่ทิ้งลวดลายความสนุกในสไตล์ปอร์เช่ก่อนจะเปลี่ยนโหมดการขับขี่มาเป็นสไตล์สปอร์ตเพื่อทดสอบสมรรถนะที่ความเร็วเพิ่มมากขึ้น แต่เนื่องจากช่วงเช้าถนนยังคับคั่งไปด้วยรถจำนวนมากเราทำความเร็วได้เป็นจังหวะๆ แต่ถึงกระนั้นบางช่วงที่ต้องเร่งแซงต้องบอกว่ามันถึงใจจริงๆ ถึงแม้ว่ามาคันจะเป็นรถ เอส ยู วี คันก็ไม่เล็กแต่ความคล่องแคล่วนั้นถือว่าจัดจ้านกันเลยที่เดียว เรื่องขุมพลังของเครื่องยนต์นั้นไม่ต้องเป็นห่วง เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ ขนาดความจุกระบอกสูบ 2.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 252 แรงม้า อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 12.3กิโลเมตรต่อลิตรเท่านั้น ลองมาดูสเป็กมาคันกันก่อนดีกว่าว่ามีจุดเด่นอะไรบ้าง

มาคันน์ (Macan) เป็นยนตรกรรมสปอร์ต SUV ขนาดคอมแพครุ่นล่าสุด ปอร์เช่ มาคันน์ ใหม่ มาพร้อมขุมพลัง เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ ขนาดความจุกระบอกสูบ 2.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 252 แรงม้า อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 12.3 กิโลเมตรต่อลิตร พร้อมทั้งอุปกรณ์มาตรฐานที่ได้รับการเพิ่มเติม ได้แก่ ไฟหน้า LED ระบบความบันเทิงและการติดต่อสื่อสาร Porsche Communication Management รุ่นล่าสุด ระบบเซ็นเซอร์หน้า-หลังพร้อมกล้องช่วยเหลือในการถอยจอด เบาะนั่งแบบ comfort ปรับได้ 14 ทิศทางที่สามารถ จดจำการตั้งค่าที่นั่งได้ ระบบช่วยเหลือการเปลี่ยนเลนส์หรือเปลี่ยนช่องทางการขับขี่ ระบบปรับอุณหภูมิภายใน ห้องโดยสารแยกระหว่าง ตำแหน่งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ระบบเชื่อมต่อ bluetooth พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Apple CarPlay และ ระบบเครื่องเสียง BOSE Surround Sound System 

เมื่อรู้จักตัวรถกันแล้วและเราก็สร้างความคุ้นชินกับรถมาสักพักแล้วเหมือนกัน สิ่งที่ชอบในตัวมาคันน์เห็นจะเป็นรถที่ขับสนุกยิ่งถ้าเปลี่ยนโหมดมาขับแบบ Sport ยิ่งให้อารมณ์เหมือนนั่งอยู่ในรถสปอร์ต ด้านหลังกว้างขวางนั่งสบาย เราใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่าในการขับไม้แรกก็มาถึงร้านอาหาร  Dubua Café คาเฟ่ ที่นครชัยศรี ซึ่งร้านนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติรูปแบบใหม่ในอาณาบริเวณพื้นที่กว่า 50 ไร่ที่โอบล้อมไปด้วยทุ่งดอกบัวสลับสี  จากที่ขับรถสปอร์ตมาเมื่อมาถึงที่

ร้านอาหารเราเปลี่ยนมาปั่นจักรยานกันบ้างเพราะร้านอาหารของเราอยู่ด่านใน ใครจะปั่นจักรยานหรือจะเดินตามเส้นทางธรรมชาติไปก็ได้แต่เนื่องจากอากาศร้อนเราจึงคว้าจักรยานมาปั่นจอดตรงหน้าร้าน หมีมีหมี่ เพื่อรับประทานอาหารกลางวันเมนูที่สั่งกันมาก็จะเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านทั้งสิ้นใครผ่านมานครชัยศรีก็ลองมาชิมกันดูนะคะอาหารอร่อยบรรยากาศดี

เมื่อทานอาหารเสร็จเรียบร้อยเราก็ไปเดินชมโซนกิจกรรมต่างๆ มีทั้งให้อาหารในฟาร์มสัตว์เลี้ยงหลากชนิดทั้ง กระต่าย, ม้า, ควาย และไก่ เราใช้เวลาเดินเล่นกันสักพักก็ถึงเวลาเดินทางกลับกันแล้ว ขากลับก็จะสลับคนขับกับอีกท่านให้ได้ลองขับบ้าง สำหรับความประทับใจในการทดสอบ ปอร์เช่ มาคันน์ ใหม่ ในวันนี้ เป็นรถที่ขับสนุกทุกช่วงเวลา โดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ที่สปอร์ ล้ำสมัย อาทิ พวงมาลัย GT sports ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถสปอร์ตระดับเรือธงอย่างปอร์เช่ 911 (Porsche 911) พร้อมชุดสวิทช์เลือกโปรแกรมการขับขี่ และสวิทช์ Sport Response สำหรับ มาคันน์ ที่เลือกติดตั้งชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ รวมไปถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหน้า ระบบฟอกอากาศ ioniser ทำงานร่วมกับชุดกรองฝุ่นละออง particulate air filter ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อคุณภาพและความสะอาดบริสุทธิ์ของบรรยากาศภายในห้องโดยสาร เรียกได้ว่าคุ้มราคาถ้าคุณได้เป็นเจ้าของรถคันนี้ (ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท) ราคานี้ถ้าเทียบกับคุณสมบัติของรถแล้วไม่แพงอย่างที่คิดนะคะ

รถยนต์ปอร์เช่ที่ใช้ในกิจกรรม ปอร์เช่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด (Cayenne E-Hybrid)

ยนตรกรรมพรีเมียม SUV แห่งยุคที่ติดตั้งขุมพลัง E-performance พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใหม่ล่าสุด ผสมผสานการบังคับควบคุมสไตล์สปอร์ต ให้เป็นหนึ่งเดียวกับประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด เครื่องยนต์ V6 ขนาดความจุกระบอกสูบ 3.0 ลิตร (340 แรงม้า/250 กิโลวัตต์) เสริมพลังด้วยระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า (136 แรงม้า/100 กิโลวัตต์) ให้พละกำลังสูงสุดรวมกว่า 462 แรงม้า (340 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุดถึง 700 นิวตันเมตร ด้วยแนวคิดในการพัฒนาแบบเดียวกับปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (Porsche 918 Spyder) อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 29.4 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 78 กรัมต่อกิโลเมตร อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ 20.6 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร (ราคาเริ่มต้น 6.3 ล้านบาท)

พานาเมร่า 4อ อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid)ยนตรกรรมสปอร์ตซาลูนสุดหรู ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและศักยภาพในการขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า เพียงอย่างเดียวกว่า 50 กิโลเมตร พละกำลังสูงสุดกว่า 462 แรงม้า ด้วยการทำงานของระบบมอเตอร์ไฟฟ้า เจเนอเรชั่นใหม่ซึ่งคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยปอร์เช่ ผสานพลังร่วมกับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบสมรรถนะสูง ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดถึง 40 กิโลเมตรต่อลิตร(ราคาเริ่มต้น 9.4 ล้านบาท)

718 บ็อกซเตอร์ (718Boxster)รถสปอร์ตโร้ดสเตอร์ที่สานต่อเทคโนโลยีเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงนอนในตำนาน โดดเด่นด้วยระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จแบบแปรผัน เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร พละกำลังสูงสุดถึง 300 แรงม้า สำหรับอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 13.5 – 14.4 กิโลเมตรต่อลิตร ไม่เพียงเท่านี้ระบบตัวถังใหม่ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรง กระจกบังลมหน้า ภายในของหลังคาประทุน รวมไปถึงชุดแผงหน้าปัทม์ และคอนโซลที่ได้รับการดีไซน์ขึ้นใหม่ทั้งหมด (ราคาเริ่มต้น 6.8 ล้านบาท)

 

ปิดปรับปรุงระบบความคิดเห็นชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก หากลูกค้าต้องการเปิดใช้งานระบบ กรุณาติดต่อ 02-8323222 กด 2