• 29 มกราคม 2021 at 11:49

Story/Photo:Piyawat Chitma

NISSAN KICKS e-POWER PREMIERE

EDITION

คันเร่งเบา…พละกำลังมาต่อเนื่อง ช่วงล่างนิ่งเกินคาด

นิสสันถือเป็นอีกค่ายที่รุกตลาดต่อเนื่องรวมถึงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีต่างๆเหมารวมถึงเรื่องของ EV ซึ่งแน่นอนเทคโนโลยีเหล่านั้นยังส่งต่อมา NISSAN KICKS e-POWER ถือเป็นรุ่นความหวังต่อจากพี่ใหญ่อย่าง NAVARA

 

ด้านการออกแบบเป็นอย่างไรบ้าง แน่นอนที่เราเห็นทั้งหมดคือแนวทางของนิสสันกำลังเปลี่ยนแปลงไปมีความชัดเจนในตัวตนมากขึ้นเรื่อยๆ กระจังหน้าทรงวีเชฟมันไม่ได้ขัดสายตาเลยแม้แต่น้อย ยิ่งได้สีดำมาตัดกับสีตัวรถแล้วมันยิ่งเพิ่มความเท่ขึ้นไปอีกเท่าตัว ออกแบบซุ้มล้อให้โดดเด่นเข้ากับรูปลักษณ์แบบรถครอสโอเวอร์ พร้อมเอกลักษณ์การออกแบบ หรือ Design DNA ที่เป็นเฉพาะของนิสสันเช่นเดียวกับในรถยนต์นิสสัน ทุกรุ่น โดยคอมแพคเอสยูวีคันนี้ กระจังหน้าเป็นแบบ V-motion ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ทรงบูมเมอแรง การออกแบบแนวเส้นหลังคาแบบลอยตัว (Floating Roof Line) และภายในใช้ลายเส้นของปีกเครื่องร่อน (Gliding Wing) ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งหมดอยู่ภายใต้แนวคิดการออกแบบของนิสสัน 

รุ่นที่เรานำมาทดสอบเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับชุดแต่งพิเศษ พรีเมียร์ อิดิชั่น ได้แก่ สเกิร์ตหน้า หลัง และข้าง สปอยเลอร์หลังสีดำเงา ล้ออัลลอยสีดำเงา ขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ สัญลักษณ์ PREMIERE EDITION (พรีเมียร์ อิดิชั่น) บริเวณเสากลางตัวรถ บริเวณคอนโซลกลาง แป้นวางเท้าทรงสปอร์ต  และคิ้วบันไดสแตนเลส พร้อมสัญลักษณ์ PREMIERE EDITION  ชุดแต่งพิเศษนี้มีให้สำหรับ สีขาว  สตอร์ม ไวท์ 

นอกจากนี้เขายังคงความปลอดภัย และความแข็งแกร่ง บนพื้นฐานของ (Zone Body Concept) อันเป็นมาตรฐานของนิสสัน  โดยโครงสร้างตัวถังรถถูกสร้างให้มีความสามารถในการดูดซับพลังงาน รับแรงกระแทก และทำให้รถยนต์มีความแข็งแกร่ง ปลอดภัย ภายในห้องโดยสารไม่อึดอัดเกินไปด้วยการออกแบบให้หลังคามีความสูงและพื้นที่เหนือศีรษะของผู้ขับและผู้โดยสารค่อนข้างสูงทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดตลอดการเดินทางถือว่าทำได้ดี ซึ่งสำหรับรุ่น V และ VL ระบบข้อมูลและความบันเทิง Nissan Connect อินโฟเทนเมนต์ (infotainment) มาพร้อมระบบเครื่องเสียง Display Audio แบบหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วและลำโพงคุณภาพสูง 6 ตำแหน่ง 

มาพร้อมการเชื่อมต่อ AM / FM / Bluetooth / USB / AUX-in รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay (สำหรับระบบ iOS) การเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สายแบบบลูทูธบนพวงมาลัย เพื่อการควบคุมที่สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีหน้าจอ TFT Digital Meter ขนาด 7 นิ้ว บนหน้าปัด ที่สามารถแสดงข้อมูลการขับขี่ รวมถึงการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แสดงมาตรวัดอุณหภูมิภายนอก มาตรวัดความเร็ว ระบบการขับขี่และการควบคุม และระบบข้อมูลและความบันเทิงขณะขับขี่ ขณะที่ระบบความบันเทิงในรุ่น S และ E เป็นระบบเครื่องเสียงมาตรฐาน วิทยุ AM / FM และการเชื่อมต่อบลูทูธ USB และ AUX-in  ลำโพงคุณภาพสูง 4 ตำแหน่ง

จะว่าไปแล้วในเรื่องของเบาะนั่งโดยสารส่วนตัวคิดว่ามันนุ่มเกินไปในวันทดสอบครั้งแรก แต่พอได้ขับทางไกลๆกลับรู้สึกว่าทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะมันช่วยให้เรารู้สึกสบายมากขึ้น ซึ่งได้ส่งผลไปถึงเรื่องของท่านั่งตำแหน่งการจับพวงมาลัยแบบ D- shapeขับมาสักระยะผมกลับไม่รู้สึกเหนื่อยกับการที่ต้องกดเร่งเพื่อเร่งแซงหรือแม้แต่เสียงเครื่องยนต์ที่เราเคยได้ยินตอนขับสนามทดสอบพอออกมาได้ลองขับจริงบนถนนหลวงทางไกลๆเสียงเครื่องยนต์ทำงานเบาลงไปอย่างเห็นได้ชัด

เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ (e-POWER): เอกสิทธิ์เฉพาะนิสสัน พลังที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ อี-พาวเวอร์ (e-POWER) นำเทคโนโลยีการขับเคลื่อนของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบอย่างนิสสัน ลีฟ รถยนต์ไฟฟ้า 100% ไอคอนของแนวคิดของการเคลื่อนที่อัจฉริยะของนิสสัน หรือ นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility) ทั้งนี้เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ มีความแตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle - BEV) อย่าง นิสสัน ลีฟ ด้วยการนำเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดเล็กมาสร้างการให้กำเนิดกระแสไฟฟ้าชาร์จสู่แบตเตอรี่กำลังสูง ลดความกังวลใจในเรื่องของการชาร์จพลังงานไฟฟ้าจากภายนอก ในขณะที่ให้พละกำลังและสมรรถนะการขับขี่เช่นรถยนต์ไฟฟ้า

เทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ ของนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร แถวเรียงแบบ DOHC (Double Overhead Camshaft) 12 วาล์ว 3 สูบ รับหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และยังมีส่วนประกอบของระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่สำคัญ ๆ อาทิ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ EM57 ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (PS) มีแรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร (Nm) และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) มีจำนวน 4 โมดูล เทคโนโลยีนี้มอบการเร่งความเร็วที่ราบรื่น การขับขี่ที่เงียบ เมื่อเราสตาร์ทระบบทำงานเงียบมากแต่ถ้าเราเข้าเกียร์ถอยหลังก็จะมีเสียงเตือนเบาๆพอให้เราได้ยิน เรื่องความเร็วต้องยอมรับว่าคิดว่ามันจะไม่รวดเร็วทันใจแต่เปล่าเลยมอเตอร์ทำงานได้ดีจริงความเร็วไหลต่อเนื่องเกิน 170 กม./ชม. ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าระบบช่วงล่างเซ็ตมาได้ดี นิ่งและเกาะถนนได้ดี

บางช่วงของการทดสอบเราได้มีโอกาสสัมผัสกับระบบคันเร่งอัจฉริยะ ONE-PEDAL โดยส่วนตัวแล้วผมชอบการทำงานของเขาจะเร่งแซงหรือชะลอความเร็ว ก็ปลอดภัยมั่นใจ เราสามารถเร่งและเบรกได้ในคันเร่งเดียว (One-Pedal) ทำให้การขับขี่เป็นเรื่องง่าย รถติดเราแค่คำนวณระยะให้ดีทุกอย่างก็จะพอดีกับการหยุดรถแล้วเราก็ไม่ต้องกดแป้นเบรกแช่เอาไว้ด้วย ยิ่งเมื่อต้องเข้าโค้งผมว่ามันยิ่งง่ายขึ้นด้วยซ้ำทุกครั้งที่เรายกคันเร่งเซ็นเซอร์ตรวจจับแรง G ว่ามันเกิดการชะลอตัวไฟเบรกก็จะติดเราไม่ต้องกังวลว่ารถคันที่ตามมาจะไม่รู้ว่าเราหยุดรถ แต่ระบบ ONE-PEDAL จะทำงานกับ DRIVE MODE ที่ S MODE และ ECO MODE เท่านั้น แล้วที่ผมชอบอีกอย่างคือเขามีโหมดเกียร์ว่างมาให้ด้วยเราสามารถปลดเป็นตำแหน่ง N เมื่อจอดรถ เพิ่มความสะดวกสบายเมื่อต้องจอดรถขวางหรือจอดซ้อนคัน ทำให้สามารถเข็นรถให้เคลื่อนที่ได้หลังจากล็อกรถแล้ว หลังจากปิดสวิตช์ตามปกติ  ให้กดปุ่มสตาร์ทหนึ่งครั้งให้อยู่ในตำแหน่ง ON จากนั้นเลือกตำแหน่ง N ให้เลื่อนคันเกียร์มาทางขวา แล้วค้างไว้ประมาณ 2 วินาที บนหน้าปัดเรือนไมล์ก็จะแจ้งเตือนว่าระบบเกียร์ว่างทำงานแล้ว

ส่วนระบบความปลอดภัยนั้นนิสสันได้เสริมความมั่นใจด้วย นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility) และเทคโนโลยีความปลอดภัยเซฟตี้ ชิลด์ (Safety Shield Technology) นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี เป็นวิสัยทัศน์ของแบรนด์นิสสัน ในการเปลี่ยนวิถีการขับขี่และการใช้ชีวิตของผู้คน เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงที่มีอยู่ใน นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ เช่นระบบวัน-เพดัล (One-Pedal), เทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Cruise Control – ICC), เทคโนโลยีเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning - IFCW), เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking – IEB)และ เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW)

 

สรุปความรู้สึกหลังลองขับ NISSAN KICKS e-POWER ว่ากันในเรื่องสมรรถนะผมบอกได้เลยขับได้สนุกตอบสนองได้ดี แรงบิด 260 นิวตันเมตรที่ 500 รอบต่อเนื่อง เป็นแบบแฟลตทอร์ค ช่วยให้ตอบสนองได้ดีไม่อืดความเร็วปลายก็ทำได้ดีช่วงล่างนิ่งเกินความคิด ส่วนระบบวัน-เพดัล (One-Pedal) อยากให้ทุกคนได้ลองใช้แรกๆอาจรู้สึกแปลกๆ แต่ถ้าปรับตัวได้ต้องบอกว่าสนุกมากระบบทำงานคล้ายกับ Engine Break เพียงแต่เราไม่ต้องแตะเบรกยกคันเร่งกดคันเร่งเท่านั้นเองเข้าโค้งก็ง่ายรถติดไฟแดงก็สะดวก

อัตราประหยัดทำได้ดีสำหรับเครื่องยนต์เราขับแบบเต็มที่ค่อนข้างเร็วมากตัวเลขก็ยังสวยงามได้ถึง 17.5 กม./ลิตร แล้วความน่าเชื่อถือคือแบตเตอรี่ ลิเทียมไอออน รับประกันเป็นระยะเวลาสูงสุด 10 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร  ซึ่งครอบคลุมระยะเวลา และระยะทางที่ใช้งาน ขณะที่ระบบไฟฟ้า อี-พาวเวอร์ และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ได้การรับประกันที่ 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร ซึ่งในรุ่นนี้ต้องบอกว่าชุดแต่งที่ให้มาถือว่าลงตัวมากๆ สีดำตัดกับสีตัวรถมันช่วยให้ดูสปอร์ตมากขึ้นจริง

ข้อมูลเทคนิค

รุ่นรถ All-New Nissan Kicks e-Power

แบบตัวถัง B-SUV 

มิติ(กว้าง xยาว x สูง มม.) 1,760 x 4,290 x 1,615

รหัสเครื่องยนต์ HR12DE 

แบบเครื่องยนต์ DOHC

ขนาด 1.2  ลิตร

มอเตอร์ไฟฟ้า EM57 ให้กำลังสูงสุด 

กำลังสูงสุด 129  แรงม้า ที่ 4,000 – 8,992 รอบต่อนาที

แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร ที่ 500 – 3,008 รอบต่อนาที

แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) 

มีจำนวน 4 โมดูล

ระบบส่งกำลัง แบบอัตโนมัติ Single Speed Gear Reduction

ระบบขับเคลื่อน    ล้อหน้า

พวงมาลัย แร็คแอนด์พิเนียน พาวเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า(EPAS)

ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม.(โดยประมาณ)

ความจุถังน้ำมัน 41 ลิตร

ขนาดยาง/หน้า/หลัง 205/55 R17

ช่วงล่าง  

หน้า แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง(MacPherson Struts)

หลัง   คานแข็ง พร้อมเหล็กกันโคลง (Torsion beam)

ระบบเบรกหน้า/หลังดิสก์เบรกพร้อมช่องระบายความร้อน/ดรัมเบรก ABS/EBD & EBA เว็บไซต์ https://www.nissan.co.th/

 

 

 

ปิดปรับปรุงระบบความคิดเห็นชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก หากลูกค้าต้องการเปิดใช้งานระบบ กรุณาติดต่อ 02-8323222 กด 2