• 13 พฤษภาคม 2021 at 13:39

       NEW NORMAL & VACCINATE       

       จะอยู่ให้รอดต้องมีวินัยไม่ใช่แค่รอผลจากวัคซีน         

...ในอนาคตอันใกล้ ไข้จากไวรัสโควิด-19 ก็จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ที่มีทั้งวัคซีน ยารักษา และภูมิคุ้มกันเช่นเดียวกัน...         

สวัสดีครับ แฟนๆ ออโตวิชั่นแอนด์ทราเวล ที่นับถือทุกๆ ท่าน บรรยากาศของพบกันครั้งนี้ไม่ใคร่จะชื่นมื่นกันนัก จากวิกฤติโรคระบาดและผลกระทบที่ทราบกันอยู่ ทั้งที่ในปีแรกของการระบาดยังเคยมีบางท่านปรามาสว่าเป็นเพียงไข้ “กระจอก” ให้ได้ยินกัน

แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ภายใต้มาตรการเพื่อป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ในขณะที่ตัวเลขสถิติผู้ติดเชื้อรายวันในประเทศ เกิดปรากฏการณ์ New high ให้ได้เห็นกันวันแล้ววันเล่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตบางวันขึ้นไปถึงมากกว่า 20 ราย โอกาสที่เส้นกราฟผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต จะเปลี่ยนมาเป็นรูประฆังคว่ำนั้น มีการประเมินกันไว้ว่าจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อประชากรในประเทศได้รับวัคซีนอย่างพอเพียง หรืออย่างน้อยก็คือต้องให้ได้ถึง 70 % ของจำนวนประชากรทั้งหมด (หรือให้ได้ 50 ล้านคน) โดยที่กระบวนการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนนี้ถึงจะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ แต่ก็จะช่วยลดความรุนแรงของอาการเมื่อติดเชื้อได้และลดการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น ทั้งนี้การเข้าถึงวัคซีนในประเทศไทยยังคงมีอะไรที่เป็นกฎเกณฑ์ที่ต้องทำความเข้าใจกันอีกมากเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง เนื่องจากค่อนข้างจะแน่ชัดแล้วว่า ทางการจะเป็นผู้เลือก ว่าใครจะได้วัคซีนอะไรจากยี่ห้อที่ทางการเป็นผู้จัดหามาให้ โดยพิจารณาจากฐานข้อมูลเรื่องอายุ ปัจจัยเสี่ยง ตลอดจนโรคประจำตัวและประวัติการรักษาของแต่ละท่าน ซึ่งประชาชนที่มีความประสงค์จะรับการฉีดวัคซีนจากทางการจะไม่สามารถขอเลือกฉีดยี่ห้อวัคซีนที่ต้องการได้ตามใจชอบ (ผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคอ้วน โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรื้อรังโรคมะเร็ง และโรคเบาหวานซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงจะได้วัคซีน AstraZeneca ทั้งหมด) ขณะที่ก็ยังไม่อนุญาตในเรื่องวัคซีนทางเลือกจากเอกชน โดยการจัดหาจะทำได้ก็ต่อเมื่อผ่านการเห็นชอบและกระบวนการจัดหาจากทางการก่อน

พิจารณาไทม์ไลน์ วัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทยนั้น แม้จะมีการปรับเปลี่ยนไปตามสถาณการณ์ แต่ก็พอจะสรุปได้ว่า อย่างน้อยจะมีการฉีดวัคซีนไปครบ 100 ล้านโดสภายในระยะเวลา 4-7 เดือนหรือ ตั้งแต่เดือนกันยายน-ธันวาคม 2564 ( 1 คน 2 โดส) โดยในขณะที่ปิดต้นฉบับอยู่นี้ มีผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสไปแล้วในฐานะผู้ที่อยู่ในพื้นที่การแพร่ระบาดหรือเป็นกลุ่มเสี่ยงเมื่อเกิดการระบาดของโรคในตอนต้น ประมาณ 1 % เท่านั้น (ก่อนสิ้นเดือนเมษายน) โดยที่การกลายพันธุ์ของไวรัสที่เชื่อว่าเป็นสายพันธุ์อังกฤษนี้ ยังมีความรุนแรงของอาการตามที่เป็นข่าวให้ทราบกัน กล่าวคือมักไม่มีอาการให้รู้ตัวว่าติดเชื้อมาแล้ว และกว่าจะแสดงอาการและไปตรวจยืนยันหรือเข้ารับการรักษา เชื้อไวรัสก็ไปทำความเสียหายให้กับทางเดินหายใจส่วนล่างแล้ว แม้บางรายจะสามารถรักษาได้ทันการณ์ แต่โดยมากผู้ป่วยมีอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว และบางรายที่มีโรคประจำตัวอยู่ก็อาการหนักถึงขั้นเสียชีวิตภายในไม่เวลาไม่กี่วัน ซึ่งปัญหาที่กระบวนการรักษาผู้ป่วย โควิด-19 ทั้งโลกประสบ ก็คือยาต้านไวรัส(ที่ใช้อยู่คือยา favipiravir) และอุปกรณ์ในขั้น ICU โดยเฉพาะเครื่องช่วยหายใจไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยเดิมที่อาการทรุดลงอย่างรวดเร็วและเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน

ที่พึ่งที่สำคัญในระหว่างที่การสร้างภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนยังไม่ทั่วถึง ก็คือข้อปฏิบัติการใช้ชีวิตแบบวิถีชีวิตใหม่ (New normal ) ที่เป็นข้อแนะนำไปทั่วโลกตั้งแต่การระบาดในปีที่แล้วนั่นเอง ปกป้องตนเองไม่ให้เป็นผู้รับเชื้อ และป้องกันไม่ให้ตนเป็นพาหะแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น เมื่อเทียบเคียงกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ในบ้านเราเมื่อปี 2461-2462 ซึ่งการแพทย์ยังไม่เจริญก้าวหน้าเหมือนในปัจจุบัน (ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในปัจจุบัน รวมทั่วโลกมากกว่า 3.1 ล้านคน ในประเทศไทยประมาณ 200 คน) มีตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการคือ 80,223 คน จากประชากร 9.2 ล้านคน ก่อนที่ไข้หวัดใหญ่จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น มีทั้งวัคซีน ยารักษา และภูมิคุ้มกัน จนเป็นโรคที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดและรักษาได้ง่ายในปัจจุบัน ซึ่งในอนาคตอันใกล้ ไข้จากไวรัสโควิด-19 ก็จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ที่มีทั้งวัคซีน ยารักษา และภูมิคุ้มกันเช่นเดียวกัน

ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในบ้านเรา ก่อนจะถึงวันที่โควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่นที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้โดยง่ายนั้น อาจจะไม่สูงเหมือนเมื่อครั้งไข้หวัดใหญ่ระบาดเมื่อร้อยกว่าปีก่อน แต่ก็เชื่อว่าคงไม่มีใครต้องการให้นับเอาตนหรือญาติสนิทมิตรสหายของตนเข้าเป็น 1 ในยอดรวมนั้นๆ อย่างแน่นอน

วิถีชีวิตใหม่ หรือ New normal เท่านั้น ที่จะนำพาให้ทุกท่านตลอดจนคนรอบข้างในสังคม อยู่รอดปลอดจากโรคร้ายจนกว่าวันที่ โควิด-19 เป็นเพียง “ไข้หวัดกระจอก” จะมาถึง

 

 

 

 

ปิดปรับปรุงระบบความคิดเห็นชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก หากลูกค้าต้องการเปิดใช้งานระบบ กรุณาติดต่อ 02-8323222 กด 2